หยก เป็นเครื่องประดับที่ให้ความเป็นสิริมงคลมากที่สุดที่สืบทอดกันมานานของชาวจีน ที่เชื่อว่าจะได้รับพลังวิเศษต่างๆ และพลังอานุภาพในการปกป้องคุ้มครองรวมถึงบำบัดรักษาอาการเจ็บป่วย และยังถูกนำมาเป็นเครื่องประดับที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทั้งแหวน กำไล ลูกปัด และเครื่องประดับอื่นๆ โดยทั่วไปคนมักเลือกหยกที่สีเพราะความสวยงามโดยรวม มาดูกันว่าควรเลือกหยกอย่างไรเพื่อให้เป็นอัญมณีแห่งความมั่งคั่งร่ำรวย
หยก อัญมณีโบราณ
หยก (jadeite) เป็นอัญมณีแห่งความมั่งคั่ง ร่ำรวย โชคลาภ ความอุดมสมบูรณ์ ถือเป็นอัญมณีที่ราชวงศ์จีนโบราณนำมาใช้ทำเครื่องประดับรวมถึงภาชนะต่างๆ มีหลากหลายสี แต่ที่นิยมมากที่สุดคือสีเขียวที่มีลวดลายแตกต่างกันออกไป ทำให้เป็นเครื่องประดับที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนเครื่องประดับอื่นๆ ในสมัยโบราณเชื่อว่าหยกมีพลังอำนาจคุ้มครอง ขจัดสิ่งชั่วร้าย นำพาแต่สิ่งดีๆ มาสู่ผู้เป็นเจ้าของ สามารถปรับสมดุลและลดพลังความร้อนช่วยให้เลือดไหลเวียนในร่างกายได้สะดวก
บทบาททางประวัติศาสตร์ชาวจีน
บทบาททางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สำคัญของหยกในชาวจีนมีมาเป็นเวลานาน ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องทางศาสนาและวิญญาณ แต่ยังมีบทบาททางวัฒนธรรม ศิลปะ ความสำคัญในการรักษาสมดุลที่ดีในชีวิต ในปรัชญาจีนหยกถือเป็นตัวแทนของความสมดุลระหว่างหยิน-หยาง ตั้งแต่มืด-สว่าง, ร้อน-เย็น, หรือลบ-บวก ถือเป็นสัญลักษณ์ของการรักษาสมดุลในทุกๆ ด้าน หยกมักถูกนำมาใช้ในการตกแต่งบ้านหรือสถานที่ต่างๆ ตามหลักความเชื่อของการเป็นสัญลักษณ์แห่งความยั่งยืนและความมั่นคง และยังถูกนำมาใช้ในการสร้างประติมากรรมต่างๆ ที่สูงส่ง
ความเชื่อในพลังธรรมชาติของหยก
ความหลากหลายของพลังทางธรรมชาติ ส่วนหนึ่งมาจากความเชื่อทางศาสนาของบรรพบุรุษ และปรัชญาต่างๆ ทั้งในประเทศจีนและทั่วโลก ซึ่งมีความเชื่อดังนี้
- ช่วยปกป้องคุ้มครอง
- ช่วยให้อายุยืน
- ช่วยให้มีสุขภาพแข็งแรง
- ชีวิตเจริญรุ่งเรือง
- ช่วยสร้างสมดุลให้ร่างกายและจิตใจ
- ใช้เป็นเครื่องราง
- มีอำนาจปกป้องอาถรรพ์ร้าย
- เพิ่มความแข็งแรงให้แก่กล้ามเนื้อ
สีของหยก
สีของหยกขึ้นอยู่กับส่วนประกอบทางเคมีและองค์ประกอบที่รวมอยู่ในหิน สภาพแวดล้อมก็มีผลให้มีสีที่แตกต่างกัน
- สีเทา: เป็นลักษณะทางกายภาพที่พบได้มาก
- สีน้ำตาล: เป็นสีที่มาจากสารอินทรีย์ในสภาพแวดล้อมที่เกิดเหตุการณ์ต่อเนื่อง
- สีแดง: เกิดจากสารไพไรต์ที่ปนเปื้อนในหิน
- สีเขียว: หากมีสาร serpentine หรือ calcite ในหิน ทำให้มีสีเขียว
- สีม่วงหรือน้ำเงิน: สีที่อุดมด้วยสารเหล็ก
- สีขาว: อาจมีปนกับสีอื่นๆ
- สีเหลือง: บางประเภทที่ปนเปื้อนกับแร่ต่างๆ ทำให้มีสีเหลือง
- สีสันที่ผสมผสาน: มีการผสมผสานของสารหลายประการ
เครื่องประดับที่ทำมาจากหยก
เครื่องประดับที่ทำมาจากหยกมีหลายรูปแบบตามความคิดสร้างสรรค์ของนักออกแบบและช่างเครื่องประดับ
- กำไล: เป็นเครื่องประดับที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
- สร้อย: มีให้เลือกหลายสไตล์และหลายรูปแบบ
- ต่างหู: สามารถมีลวดลายหรือแต่งเพิ่มด้วยเงินหรือทอง
- แหวน: แหวนที่มีหยกเป็นส่วนหลัก เป็นที่นิยมในการใส่เป็นเครื่องประดับประจำตัว
- พระเครื่อง: พระเครื่องที่สร้างจากหยกมักเป็นที่นิยมในบางท้องถิ่น ที่เน้นความศักดิ์สิทธิ์
- เครื่องประดับที่ผสมกับโลหะ: การผสมผสานกับโลหะทองหรือเงินเพื่อเพิ่มความหรูหรามากขึ้น
การเลือกซื้อหยก
การเลือกซื้อต้องพิจารณาคุณลักษณะต่างๆ ควรเลือกที่มีความละเอียด โปร่งใส สีสดใสสม่ำเสมอ ไม่มีรอยหรือจุดสีด่าง เพื่อให้ได้เครื่องประดับที่สวยมีคุณภาพและความคุ้มค่า โดยมีคำแนะนำในการเลือกซื้อดังนี้
- สี: ส่งผลต่อราคาและความนิยม
- ความโปร่งใส: ต้องมีความโปร่งใส และมีสีสดใส
- ความแข็งแรง: ทำให้ทนทานต่อการใส่และการใช้งาน
- การตรวจสอบรอยและลักษณะพิเศษ: เช่น ลาย, รอยแตก และจุดด่าง
- น้ำหนัก: มีผลต่อราคาและการสวมใส่ หยกที่มีน้ำหนักมากมักจะมีราคาสูง
- การรับรองคุณภาพ: ค้นหาร้านที่มีการรับรองคุณภาพที่เชื่อถือได้
- ราคา: ให้ความสำคัญกับราคาที่ขึ้นอยู่กับคุณลักษณะต่างๆ
บทสรุป
การเลือกเครื่องประดับที่ทำจากหยกมีจุดเด่นในความเป็นธรรมชาติ สีและลวดลายที่ไม่ซ้ำซ้อน เป็นวัตถุประดิษฐ์ที่มีความหมายทางจิตวิทยาและทางศาสนา ก่อนจะตัดสินใจซื้อมาสวมใส่หรือใช้ประดับ ควรตรวจสอบอย่างรอบคอบเพื่อให้ได้เครื่องประดับที่สวยงามและตรงตามความต้องการมากที่สุด
ขอบคุณแหล่งที่มาจาก
- www.vavagems.com
- https://english.visitbeijing.com.cn
ขอบคุณแหล่งที่มารูปภาพ
- https://vietnam.vnanet.vn
- www.istockphoto.com
ติดตามเรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ wilf-diamonds.com
หมวยลี่ เป็นนักเขียนผู้รังสรรค์ผลงานมากมาย ด้วยความเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือเป็นอย่างมากทำให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์การอ่านหนังสือทุกประเภท รวมถึงบทความตามโซเชียลและเว็บไซต์ต่างๆ ปัจจุบันเธอทำงานบริษัทในกลุ่มธุรกิจกีฬารวมถึงผลิตสื่อกีฬาออนไลน์ การได้พื้นที่ในช่องทางออนไลน์ทำให้เธอสามารถใช้ทักษะทางการเขียนของตัวเองให้เป็นที่รู้จักของผู้คนและทำให้เธอใกล้ชิดกับผู้อ่านได้มากขึ้น
